ความต้องการศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศ

แปลงเพศการศัลยกรรมแปลงเพศ เกิดจากการที่ผู้ที่ต้องการให้สังคมยอมรับในเพศสภาพของตนเอง อีกทั้งจะช่วยทำให้สุขภาพจิตของผู้ผ่าตัดดีขึ้น เนื่องจากเป็นความต้องการทางจิตใจที่จะใช้ดำเนินชีวิตในสังคมให้ตรงกับเพศสภาพ และช่วยเหลือทางด้านจิตใจ เช่นจากภาวะซึมเศร้าหรือทำร้ายตัวเอง

 

การจะแปลงเพศในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนให้การยอมรับ แต่ด้วยจากหลายๆ เหตุผลอาจจำเป็นต้องทำให้เพศที่สามต้องแสดงสถานะหรือเพศสภาพให้ชัดเจน เพื่อระบุความชัดเจนทางเพศสภาพในการดำเนินชีวิตทางสังคม

 

ความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจก่อนแปลงเพศ

การแปลงเพศควรมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นก่อนเพื่อเตรียมให้พร้อมทั้งทางด้านจิตใจ เพราะการแปลงเพศสำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดคือผู้ที่ต้องการให้ร่างกายตรงกับเพศสภาพของจิตใจและร่างกาย เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ควรปรึกษาแพทย์ หากเกิดความสงสัยในขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงการดูแลหลังผ่าตัดด้วย

 

ผู้ที่จะเข้ารับการแปลงเพศ ควรเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป เพราะร่างกายจะเจริญเติบโตเต็มที่อีกทั้งมีความพร้อมทางด้านจิตใจพอสมควร ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงติดต่อกันเป็นระยะที่ยาวนานมากกว่า 1 ปีขึ้นไป โดยที่มีความรู้สึกเป็นหญิงมานานแล้ว รู้สึกไม่ชอบอวัยวะเพศชาย คิดว่าเป็นส่วนเกินของตนเอง อีกทั้งควรมีหนังสือให้การยินยอมจากผู้ปกครองด้วย

 

การทดสอบทางด้านจิตใจก่อนแปลงเพศ

 

การตัดสินใจแปลงเพศจะทำให้ผู้ผ่าตัดเกิดความสบายใจที่ได้เปลี่ยนแปลงเพศสภาพให้ตรงกับจิตใจของตนเอง ส่งผลให้เป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น และสามารถทำให้ใช้ชีวิตตามเดิมได้โดยไร้ความทุกข์หรือความกังวลเกี่ยวกับเพศสภาพของร่างกาย

 

แต่การแปลงเพศ ถือเป็นดาบสองคมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดจะต้องมีการทดสอบทางด้านจิตใจอยู่หลายครั้ง กว่าแพทย์จะสามารถให้คำยืนยันว่าสามารถผ่าตัดได้เนื่องจากทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของผู้ผ่าตัดนั่นเอง